สถานที่ท่องเที่ยว “ไม่ควรพลาด” เวียดนามกลาง 2020
เวียดนามกลางถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างพากันหลั่งไหลไปสัมผัสมนต์เสน่ห์กันอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในเส้นทางเมือง “เว้-ดานัง-ฮอยอัน” ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเมืองเก่าและวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่มาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นที่ตั้งของเมืองมรดกโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสถานที่แห่งใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ “บานาฮิลล์” ที่เต็มไปด้วยความอลังการในรูปแบบสวนสนุกที่เพียบพร้อมไปด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าเวียดนามกลางเป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่ครบรสจริงๆ ไปดูกันเลยค่ะว่าปี 2020 นี้ มีสถานที่ไหนให้ต้องไปเช็คอินกันบ้าง


พระราชวังเมืองเว้ (Hue Imperial City)
จัดเป็นไฮไลท์ของเมืองเก่าแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เป็นนครของจักรพรรดิราชวงศ์เหงียนอันเป็นมรดกตกทอดมาสู่สายตาประชาชนในปัจจุบัน มีกำแพงล้อมแน่นหนาถึง 3 ชั้น มีพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ พระราชวังถูกสร้างขึ้นตามแบบแผนความเชื่อแบบจีนซึ่งได้รับอิทธิพลจากการอยู่ภายใต้การปกครองของจีนมาเป็นเวลาร่วมพันปี จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้านคุณค่าทางวัฒนธรรม ศาสนา และการเมือง ในปี ค.ศ. 1993


เจดีย์เทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)
เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหอม ถือเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซนที่ได้รับอิทธิพลของวัดนิกายมหายาน มีจุดเด่น คือ “เจดีย์เทียนมู่” เป็นเจดีย์ 7 ชั้นทรงเก๋งแปดเหลี่ยมสไตล์จีน ตามความเชื่อที่ว่าเป็นตัวแทนของภพชาติต่างๆ ของพระพุทธเจ้า มีความสูง 21 เมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1601 และกลายมาเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองเว้ วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนไทยในนาม เจดีย์นางฟ้า หรือ วัดเทพธิดาราม นั่นเอง


สุสานพระราชวงศ์เหงียน (The Nguyen Dynasty Tombs) หรือสุสานไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh)
เป็นสุสานที่มีความอลังการ โดยถูกสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ยประกอบไปด้วย ทางเดินเข้าต้องผ่าน กำแพงซุ้มประตู 3 ชั้น ศาลกราบไหว้ ทะเลสาบ ศาลาในน้ำ และสุสานที่ฝังศพของพระราชวงศ์เหงียน สุสานเหล่านี้ตั้งอยู่บนเนินเขาภายด้านใน สามารถเดินชมตามลำดับขั้นไปได้เรื่อยๆ จากทั้งหมด 13 จักรพรรดิ สุสานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเพียง 7 พระองค์เท่านั้น แต่ละสุสานจะถูกตกแต่งในลักษณะที่แตกต่างกัน บางสุสานจะมีรูปปั้นนักรบ นักกวี หรือ นักบวช อยู่ที่หน้าของที่ตั้งสุสาน และบางที่ก็มีเพียงแค่สุสานให้ขึ้นไปกราบไหว้เท่านั้น


ล่องเรือแม่น้ำหอม เมืองเว้   (Perfume River)
หรือที่ชาวเวียดนามเรียกว่าซงเฮือง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองเว้ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศของลำน้ำหอม โดยการล่องเรือจักรพรรดิหรือเรือมังกร พร้อมชมการแสดงของศิลปินนักร้อง นักดนตรี ที่จะมาขับร้อง ฟ้อนรำ และบรรเลงเพลงพื้นบ้านให้ชมกันสดๆบนเรือ ซึ่งในอดีตการแสดงและบรรเลงเพลงพื้นบ้านเหล่านี้เป็นการเล่นถวายให้กับจักรพรรดิเท่านั้น


วัดหลินอึ๋ง (Linh-Ung Temple)
ตั้งอยู่บนเกาะเซินตร่า (Son Tra) ทางเหนือของเมืองดานัง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ ล้อมรอบด้วยป่าไม้ธรรมชาติสีเขียวขจี มีสถาปัตยกรรมแบบจีน โดดเด่นด้วยรูปปั้นปูนขาวของเจ้าแม่กวนอิมยืนหันหลังให้ภูเขา หันหน้าออกสู่ทะเลเพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองชาวประมงที่ออกไปหาปลา มีความสูง 67 เมตร ตั้งอยู่บนฐานดอกบัว ฐานกว้าง 35 เมตร นับเป็นรูปปั้นองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถชมทัศนียภาพของเมืองดานังได้จากมุมสูงแบบพาโนราม่าได้อย่างสวยงามที่สุดอีกด้วย


เมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An Ancient Town)
สถานที่ยอดฮิตอันดับหนึ่งที่ต้องห้ามพลาด! เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่ไม่ว่าใครได้เข้าไปเยี่ยมชมต่างก็พากันหลงใหลกับความคลาสสิคของอาคารและสิ่งปลูกสร้างกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่คุมโทนสีเหลืองมัวตาร์ดเกือบทั่วทั้งเมือง ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสุดชิลล์ของแม่น้ำ เยี่ยมชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวเวียดนามท้องถิ่น ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2542 อีกด้วย


นั่งเรือกระด้ง ฮอยอัน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางไปเยือนเมืองฮอยอัน คือ การนั่งเรือกระด้ง ซึ่งมีชื่อท้องถิ่นว่า “Thung Chai” ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองฮอยอัน มีลักษณะเป็นเรือคล้ายกระด้งทำมาจากไม้ไผ่ ซึ่งแต่เดิมเป็นเรือที่ชาวประมงนิยมใช้ในเวียดนามกลาง แต่ต่อมาได้กลายมาเป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เพราะมีการนำมาดัดแปลงเป็นกิจกรรมสุด Exclusive เพิ่มความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวด้วยลีลาการพายที่สนุกสนานครื้นเครงและน่าหวาดเสียวจนโด่งดังไปทั่วโลก


ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountains)
สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติต้องไม่พลาดการเดินทางไปเยี่ยมชมภูเขาหินอ่อนแห่งเมืองดานังแห่งนี้ โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองดานังไปประมาณ 15 - 20 นาที ตั้งอยู่บนถนนที่เป็นทางผ่านไปฮอยอัน สันนิษฐานว่าภูเขาหินอ่อนนี้เกิดจากปลายยอดของภูเขา ที่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วเปลือกโลกมีการเลื่อนและน้ำทะเลเหือดแห้ง จึงกลายเป็นยอดสูงเหนือพื้นดินอยู่ 5 ลูก ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ชาวบ้านนำไปโยงกับตำนานนางฟ้าแห่งเมืองดานัง


สะพานมังกรแห่งเมืองดานัง (Dragon Bridge)
เป็นสะพานข้ามแม่น้ำฮัน (Han River) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาดได้เมื่อแวะไปเยือนเมืองดานัง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนประเทศ และเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2013 ด้วยสถาปัตยกรรมที่บวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานของเวียดนามเมื่อกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว โดยในทุกค่ำคืนของวันเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวต่างนิยมพากันไปชมการแสดงชุดลมหายใจแห่งไฟ โดยตัวมังกรจะถูกประดับประดาด้วยหลอดไฟ LED กว่าพันหลอด ส่องสว่างสวยงามในยามค่ำคืน พร้อมชมการแสดงมังกรพ่นน้ำพ่นไฟที่สวยงามอลังการ


บานาฮิลส์ (Ba Na Hills)
เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเมืองดานัง ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีความสูง 1,291 เมตร ห่างจากตัวเมืองดานังออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ยิ่งใหญ่และอลังการของเมืองจำลองที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจและกิจกรรมสันทนาการอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก, โรงแรม 5 ดาว, สะพานมือยักษ์ GOLDEN BRIDGE, สวนสนุก SUN WORLD, สวนดอกไม้ และหมู่บ้านฝรั่งเศส เป็นต้น