02-525-9599
ประเทศเวียดนามใต้หรือเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเวียดนาม เป็นรัฐที่ปกครองบริเวณตอนใต้ของเวียดนามระหว่างปี พ.ศ. 2498 ถึง พ.ศ. 2518 ซึ่งต่างชาติโดยเฉพาะรัฐประชาธิปไตยและชาติต่อต้านคอมมิวนิสต์นิยมเรียกในชื่อว่า เวียดนามใต้ คำเรียก เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ ถูกใช้อย่างแพร่หลายในปี พ.ศ. 2497 ในการประชุมที่เจนีวา ซึ่งแบ่งประเทศเวียดนามออกเป็นสองส่วนโดยเส้นขนานที่ 17 ในระหว่างสงครามเวียดนาม เวียดนามใต้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ในอดีต เวียดนามใต้เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในชื่อ โคชินไชนา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดมินห์ซึ่งนำโดยโฮจิมินห์ สถาปนารัฐคอมมิวนิสต์ขึ้นที่ฮานอย ในปีพ.ศ. 2492นักการเมืองที่ไม่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ก่อตั้งรัฐบาลขึ้นที่เมืองไซ่ง่อนซึ่งนำโดยอดีตจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ในปี 2498 บ๋าว ดั่ย ถูกปลดโดยนายกรัฐมนตรีโง ดิ่ญ เสี่ยม และแต่งตั้งตนขึ้นเป็นประธานาธิบดี หลังจากเสี่ยมเสียชีวิตจากการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2506 ได้มีรัฐบาลทหารอายุสั้นหลายสมัยได้ปกครองเวียดนามใต้จนถึงปี พ.ศ. 2510 พลโท เหงียน วัน เถี่ยวได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีและได้ปกครองเวียดนามใต้จนถึงปี พ.ศ. 2518 สงครามเวียดนามเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2502 โดยกองกำลังเวียดกงซึ่งได้รับสนับสนุนโดยเวียดนามเหนือ การรบถึงจุดตัดสินในปีพ.ศ. 2511 แม้จะมีสนธิสัญญาสันติภาพในปีพ.ศ. 2516 แต่การรบยังคงต่อเนื่องจนกระทั่ง กองทัพเวียดนามเหนือยึดกรุงไซ่ง่อนได้ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518ทะเลทรายขาว ( White Sand Dune ) และ ทะเลทรายแดง (Red Sand Dune)เป็นทะเลทรายที่ได้รับสมญานามว่าเป็นทะเลทรายซาฮาร่าของเวียดนาม มองไปทางไหนจะเห็นเพียงผืนทรายและท้องฟ้าเท่านั้นไม่ไกลกันมีแหล่งนํ้าจืด (โอเอซิส) แถมเม็ดทรายยังละเอียดราวกับแป้งอีกด้วย แล้วเราจะได้เห็นความงดงามของเนินทรายที่เปลี่ยนรูปร่างไปตามแรงลม และยังมีให้เช่ารถจี๊ปขับตะลุยเนินทราย หรือ เช่าแผ่นกระดานไว้เล่นสไลด์เนินทรายก็ได้อีกด้วยลำธารนางฟ้า ( fairy stream ) หรือ แกรนด์แคนยอนแห่งเวียดนามเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของมุยเน่ ซุยเทีนยน เกิดจากภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ ถูกกัดเซาะของน้ำมานานวัน จนเป็นร่องกว้างกว่า 20 เมตร มีชั้นหิน ชั้นทรายสีสันสวยงามที่สวยงามคล้ายๆกับแพะเมืองผีของบ้านเรา และมีลำธารเล็กๆระดับน้ำประมาณตาตุ่มซึ่งพัดพาตะกอนทรายสีแดงไหลออกไปสู่ทะเล ถือเป็นแหล่งลำธารน้ำจืด ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า ลำธารนางฟ้า เพราะความสวยงามของท้องฟ้าตัดกับทะเลทราย แล้วเดินย่ำไปตามลำธารน้ำสายเล็กสวยงามสมคำร่ำลือสวนพฤกษศาสตร์ดาลัด (Dalat Flower Gardens) นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองสุดโรแมนติกแล้ว ดาลัดยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองดอกไม้อีกด้วย เพราะที่นี่มีดอกไม้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี ดังนั้นจุดแรกในการมา เที่ยวดาลัดด้วยตัวเอง ก็ควรจะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ดาลัด สวนแห่งนี้อยู่ทางทิศใต้ของทะเลสาบซวนฮวาง บนถนนฟูดงเตียนหวุง (Phu Dong Thien Vuong) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2409 เพื่อให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรทางภาคใต้พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได๋ ( Bao Dai's Summer Palace ) ตั้งอยู่นอกเมืองดาลัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร พระราชวังของกษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนาม ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี โดยเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2476 ภายในตัวอาคารมีห้องภาพขของพระเจ้าเบ๋าได๋ พระมเหสี พระโอรส พระธิดา มีห้องสำหรับทรงงานแต่บนโต๊ะสำหรับทรงงานกลับมีโทรศัพท์วางไว้สองเครื่อง อีกเครื่องคาดว่าจะเป็นของเหวียนวันเทียว อดีตประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ หลังจากพระเจ้าเบ๋าได๋เสด็จออกจากประเทศเวียดนามเพื่อไปพำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ส. 1975 พระราชวังแห่งนี้จึงกลายเป็นที่พำนักของเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์อุโมงค์กู๋จี ( Củ Chi tunnels ) เป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่เชื่อมถึงกันในอำเภอกู๋จีในไซ่ง่อน ( ปัจจุบันคือ โฮจิมินห์ซิตี้ ) และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ อุโมงค์กู๋จีเป็นที่ตั้งของการทัพหลายครั้งระหว่างสงครามเวียดนาม และเป็นฐานปฏิบัติการของเวียดกง เมื่อครั้งการรุกเทศกาลตรุษญวนในปี ค.ศ. 1968อุโมงค์ดังกล่าวถูกใช้โดยกองโจรเวียดกงเป็นจุดซ่อนตัวระหว่างการปะทะ เช่นเดียวกับเป็นเส้นทางสื่อสารและเสบียง โรงพยาบาล สถานที่เก็บอาหารและอาวุธและที่พักอาศัยของนักสู้กองโจรจำนวนมาก ระบบอุโมงค์ดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเวียดกงในการต่อสู้กับทหารสหรัฐ จนกระทั่งสหรัฐต้องถอนกำลังทหารออกจากเวียดนามใต้ในที่สุดปัจจุบันมีการเปิดสมรภูมิเลือดแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่พาเดินไปยังจุดสำคัญและสามารถมุดลงไปถึงชั้นสามของอุโมงค์ เส้นทางคดเคี้ยวและมืดมาก แม้ว่าจะมีการปรับปรุงให้สว่างขึ้น ส่วนบริเวณโดยรอบของอุโมงค์แห่งนี้ ยังคงเหลือซากแห่งสงคราม อาทิ รถถัง เครื่องบิน วัตถุระเบิด และหลุมระเบิดขนาดใหญ่ซึ่งกลายเป็นบ่อเลี้ยงปลาไปแล้วน้ำตกฟงกัว ( Pongour Falls ) น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัด ไปทางทิศใต้ประมาณ 55 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตก ขนาดใหญ่ที่สวยที่สุดในเวียดนาม มีความสูงทั้งหมด 20 เมตร กว้าง 100 สายน้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ลัดเลาะผ่านหน้าผาสูง คุ้มค่ากับการมาเดินทางมาเห็นแน่นอนThe Cafe Apartment ตั้งอยู่ที่ Nguyen Hue Street (Ho Chi Minh Walking Street) เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เป็นอพาร์ทเมนท์เก่า 9 ชั้น ที่แปลงใหม่ให้เป็น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านเสริมสวย และร้านหนังสือ รวมกันในที่เดียว สามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อดูแต่ละชั้นได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่หากเราขึ้นโดยใช้ลิฟต์ จะต้องเสียเงินประมาณ 2,976 ดอง หรือ ประมาณ 4 บาท