สถานที่ท่องเที่ยวในมาเก๊า


ธงประจำชาติมาเก๊า
เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
เรียกสั้น ๆ ว่า มาเก๊า ในภาษาอังกฤษเขียนเป็น Macau และ Macao 
เป็นพื้นที่บนชายฝั่งทางใต้ของประเทศจีน ปกครองโดยประเทศโปรตุเกสก่อนพ.ศ. 2542 เป็นอาณานิคมของยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในจีน
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 อำนาจอธิปไตยเหนือมาเก๊าได้ย้ายไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในพ.ศ. 2542 
กลายเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน โดยมีฐานะเป็น เขตบริหารพิเศษ ของจีนภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
เป็นเวลา 50 ปี จากวันที่ 19 ธันวาคม 2542 จนถึงปี วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2592

เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล ณ. มาเก๊า
องค์เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล
ซึ่งเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทองสัมฤทธิ์ ประทับยืนบนโคมทรงดอกบัว มีความสูง 18 เมตร หนักกว่า 1.8 ตัน 
องค์เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งชื่อว่า เจ้าแม่กวนอิมลูกครึ่งโปรตุเกส เนื่องจากองค์ท่านถูกสร้างขึ้นโดยการใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างจีนกับโปรตุเกส
โดยมีพระพักตร์เป็นพระแม่มารี ซึ่งโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊าในโอกาสส่งมอบเกาะมาเก๊าคืนให้กับจีน เพื่อคนให้รุ่นหลังได้ระลึกถึงนั่นเอง
นอกจากนี้ภายใต้รูปปั้นขององค์เจ้าแม่กวนอิมยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงถึงประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้โดยละเอียดอีกด้วย

เซนาโด้สแควร์ ย่านการค้าที่สำคัญของมาเก๊า หรือเซ็นเตอร์พอยท์มาเก๊า
เซนาโด้สแควร์
ย่านการค้าที่สำคัญของมาเก๊า หรือเซ็นเตอร์พอยท์มาเก๊าโดดเด่นด้วยพื้นถนนที่ปูลาดด้วยกระเบื้องเป็นลอนคลื่น เปรียบเสมือนท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์
ล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โปรตุเกส ให้อิสระท่านเดินช้อป ชิม ชิลล์ ตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าสินค้าแบรนด์เนมได้ที่นี่
ไม่ว่าจะเป็น ESPRIT, GIORDANO, BOSSINI, LEVI’S, BODY SHOP ฯลฯ

เดอะเวเนเชี่ยน(THE VENETIAN MACAU RESORT)
เดอะเวเนเชี่ยน (THE VENETIAN MACAU RESORT)
สัมผัสความอลังการของโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมาเก๊า เดอะเวเนเชี่ยน(THE VENETIAN MACAU RESORT)
ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินที่ถูกถมทะเลเรียกว่า โคไท เชื่อมระหว่างเกาะไทปา และเกาะโคโลอาน พื้นที่ของรีสอร์ทมีขนาดรวมทั้งหมด 10.5 ล้านตารางฟุต
ประกอบด้วยห้องพัก 3,000 ห้อง มีร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำกว่า 350 ร้านค้า และโดดเด่นด้วยเนื้อที่เพื่อการเสี่ยงโชคซึ่งรวมถึงโต๊ะเสี่ยงโชคกว่า 800 โต๊ะ
รวมถึงเครื่องเสี่ยงโชคอันล้ำสมัยกว่า 1,500 เครื่อง มีภัตตาคารร้านอาหารกว่า 20 แห่ง และศูนย์ประชุมที่จุผู้คนได้ถึง 15,000 ที่นั่ง
มอบอิสระท่านเที่ยวชมและสัมผัสบรรยากาศของเวนิสแห่งเอเชียไปกับความบันเทิงที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างหลากหลาย อาทิเช่น ล่องเรือกอนโดล่า ร้านขายสินค้าต่างๆ ร้านอาหาร หรือโชว์ต่างๆ

วัดเจ้าแม่กวนอิม (KUN IAM TEMPLE)
วัดเจ้าแม่กวนอิม (KUN IAM TEMPLE)
เพื่อทำพิธีเปิดทรัพย์ตามฤกษ์ประจำปี 2563 วัดแห่งนี้เป็นวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า
สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ภายในวัดมีแท่นบูชาสวยงาม สำหรับประดิษฐานองค์พระพุทธรูป พร้อมรูปปั้นทองลงรักของสาวกอีก 3 รูป
นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระพุทธรูปปางนิพพานประทับอยู่ในดอกบัว แล้วนำท่านนมัสการองค์เจ้าแม่กวนอิมเก่าแก่ที่มีอายุ 600
กว่าปีในชุดเจ้าสาวของจีนที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างงดงาม

วัดนาจา มาเก๊า ไหว้พระดี
วัดนาจา (NA TCHA TEMPLE)
เป็นวัดขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนและตะวันตกได้อย่างลงตัว โดยตัววัดเป็นอาคารจีนโบราณขนาดเล็ก
ตั้งอยู่ติดกับรั้วกำแพงของซากโบสถ์เซนต์ปอล วัดแห่งนี้มีตำนานเล่าว่า ยุวเทพนาจา หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า นาจาซาไท้จื้อ
มาเข้าฝันชาวบ้านในช่วงที่กาฬโรคระบาดอย่างรุนแรงทั่วมาเก๊า โดยบอกให้ชาวบ้านนำน้ำจากเทือกเขามาผสมกับยาสมุนไพรจีน
ชาวบ้านจึงได้ลองทำตาม ปรากฏว่าสามารถรักษาโรคจนหายในที่สุด นับตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านจึงพากันสร้างศาลเพื่อถวายแด่ท่าน และกลายมาเป็นวัดนาจาจวบจนปัจจุบัน

วัดลินไก (LIN KAI TEMPLE)
วัดลินไก (LIN KAI TEMPLE)
เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งมวล จึงถือได้ว่าวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าจำนวนมากที่สุดในมาเก๊า
ชาวมาเก๊านิยมเดินทางมาขอพรองค์เทพหัวกวางหรือเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง หรือเทพแห่งไฟ ซึ่งเป็นหลานของเง็กเซียนฮ่องเต้
นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นของเทพธิดาแห่งการให้กำเนิดและเลี้ยงดูทารกประดิษฐานอยู่ ทำให้คู่แต่งงานที่มีลูกยากต่างนิยมเดินทางมาขอพรกันที่วัดแห่งนี้

วัดหลินฟง (LIN FUNG TEMPLE)
วัดหลินฟง (LIN FUNG TEMPLE)
จัดเป็นอีกหนึ่งในสามวัดดังเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองมาเก๊า ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นที่พำนักของขุนนางจีน หลิน เจ๋อซวี (LIN ZEXU)
เมื่อครั้งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนองค์จักรพรรดิจีนเมื่อปี 1839 จากผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งและกวางสีเพื่อรับผิดชอบกวาดล้างการค้าฝิ่นในบริเวณเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล
ซึ่งนับว่าเป็นสงครามฝิ่นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์จีน ดังนั้นส่วนหนึ่งในวัดจึงมีพิพิธภัณฑ์หลิน เจ๋อซวี เพื่อบอกเล่าเรื่องราวดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีความพิเศษ คือ เป็นวัดในลัทธิเต๋าแห่งเดียวในเมืองมาเก๊า และเป็นวัดเดียวที่มีโรงเรียนภายในวัด ไม่เพียงเท่านั้น
พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ในวัดหลินฟงแห่งนี้ยังเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมปางมหาบุรุษ
หรือที่เรียกกันว่าปางพระอวโลกิเตศวรซึ่งพบเห็นได้น้อย จึงเป็นวัดที่ควรเดินทางมากราบไหว้อย่างยิ่ง

วัดเปากง (PAU KUNG TEMPLE)
วัดเปากง (PAU KUNG TEMPLE)
ชื่อวัดแห่งนี้ได้มาจากชื่อของเทพแห่งความยุติธรรม “เปากง หรือ เปาบุ้นจิ้น” ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
นอกจากผู้คนจะนิยมมากราบไหว้ท่านเปากงเพื่อขอพรให้ช่วยปัดเป่าคนปองร้ายหรือศัตรูแล้ว ยังนิยมมาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์อีกหลายองค์ภายในวัด
โดยเฉพาะองค์ไท้ส่วยเอี๊ยซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ดูแลดวงชะตาของเรา ซึ่งองค์ไท้ส่วยเอี๊ยที่วัดแห่งนี้มีปางที่แตกต่างจากวัดอื่นๆ
ถือเป็นวัดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชงและเสริมดวงชะตา แล้วนำท่านเดินทางไปขอพรต่อ

วัดอาม่า (A-MA TEMPLE)
วัดอาม่า (A-MA TEMPLE)

ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองมาเก๊า และยังติดอันดับ 1 ใน 3 วัดดังที่มีผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรมากที่สุด โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะมีเมืองมาเก๊าเกิดขึ้น
และยังเป็นวัดที่ได้รับการบันทึกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย สำหรับภายในวัดจะมี องค์อาม่าหรือเจ้าแม่ทับทิม เป็นองค์ประธาน
ผู้คนส่วนใหญ่นิยมมาขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว โดยบูชาด้วยธูปขด-เทียน หรือเทียนดอกบัวคู่เพื่อขอพรเรื่องคู่ครอง-คนรัก
ภายในวัดมีก้อนหินขนาดใหญ่และสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เชื่อกันว่าหากพกธนบัตรที่นำไปลูบกับภาพจำลองเรือแกะสลักบนหินแล้วจะมีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา

วัดซำไกวุยคุน (SAM KAI VUI KUN TEMPLE) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดกวนไท (KUAN TAI TEMPLE)
วัดซำไกวุยคุน (SAM KAI VUI KUN TEMPLE) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดกวนไท (KUAN TAI TEMPLE)
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆของจัตุรัสเซนาโด้ เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก
และยังถือเป็นหนึ่งในวัดยอดนิยมที่ผู้คนเดินทางมาบูชาเทพเจ้ากวนอูกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะท่านที่ทำอาชีพตำรวจ นักการเมือง นักธุรกิจ
และผู้ที่มีชื่อเสียงเพราะเชื่อกันว่าเทพเจ้ากวนอูเป็นเทพเจ้าที่รักษาคำพูดด้วยชีวิต รักคุณธรรม ซื่อสัตย์ ช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายภยันตรายต่างๆ
และเสริมอำนาจบารมีในการปกครอง ความโดดเด่นอย่างหนึ่งของวัดแห่งนี้คือเทพเจ้ากวนอูที่นี่ไม่ใช่ปางทรงม้าและถือดาบแบบที่เราพบเห็นบ่อยๆตามวัดอื่น

โบสถ์เซนต์ปอล
โบสถ์เซนต์ปอล
สร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 นับเป็นสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า
แต่เดิมโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกของชาวตะวันตกในดินแดนตะวันออกไกล ต่อมาในปี ค.ศ.1835
ได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ทำให้คงเหลือแต่ซากประตูโบสถ์ด้านหน้า และบันไดทางเข้าด้านหน้าที่ยังคงความสง่างาม หลังจากที่มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1991
นอกจากนี้ด้านหลังโบสถ์ยังมีการจัดพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาขึ้น และยังมีหลุมฝังศพของบาทหลวงวาลิคนาโนซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโบสถ์
รวมถึงโครงกระดูกของชาวคริสต์ ญี่ปุ่น เวียดนาม ที่เสียชีวิตเมื่อคราวที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งยิ่งใหญ่